BAAN THAI
March 19, 2024, 01:23:55 am
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ไ ท ย  คื อ  ไ ท ย 
 
  Home Help Search Gallery Staff List Login Register  

เรื่องย่อ " มัทนะพาธา"ตำนานดอกกุหลาบ

Pages: [1]
  Print  
Author Topic: เรื่องย่อ " มัทนะพาธา"ตำนานดอกกุหลาบ  (Read 2190 times)
nusara
Sr. Member
****
Posts: 447



View Profile
« on: November 26, 2009, 11:02:15 pm »

เรื่องย่อ " มัทนะพาธา"ตำนานดอกกุหลาบ


จอมเทพสุเทษณ์เป็นทุกข์อยู่ด้วยความลุ่มหลงเทพธิดามัทนา

แม้จิตระรถผู้เป็นสารถีคู่บารมีจะนำรูปของเทพเทวีผู้เลอโฉม

หลายต่อหลายองค์มาถวายให้เลือกชม

สุเทษณ์ก็มิสนใจไยดี จิตระรถจึงนำมายาวินวิทยาธรมาเฝ้า

สุเทษณ์ให้มายาวินใช้เวทมนตร์เรียกนางมัทนามาหา

เมื่อมาแล้วนางมัทนาก็เหม่อลอยมิมีสติสมบูรณ์

เพราะตกอยู่ในฤทธิ์มนตรา สุเทษณ์มิต้องการได้นางด้วยวิธีเยี่ยงนั้น

จึงให้มายาวินคลายมนตร์ แต่ครั้นได้สติแล้ว นางมัทนาก็ปฏิเสธ

ว่ามิมีจิตเสน่หาตอบด้วยมิว่าสุเทษณ์จะเกี้ยวพาและรำพันรักอย่างไร

สุเทษณ์โกรธนักจึงจะสาปมัทนาให้ไปเกิดในโลกมนุษย์

มัทนาขอให้นางได้ไปเกิดเป็นดอกไม้มีกลิ่นกลิ่นหอม

เพื่อให้มีประโยชน์บ้าง

สุเทษณ์จึงสาปมัทนาให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบที่งามทั้งกลิ่นทั้งรูป

และมีแต่เฉพาะบนสวรรค์ยังไม่เคยมีบนโลกมนุษย์

โดยที่ในทุกๆ หนึ่งเดือน นางมัทนาจะหลายร่างเป็นคนได้ชั่ว หนึ่งวัน หนึ่งคืน

ในเฉพาะวันเพ็ญของแต่ละเดือนเท่านั้น

และถ้านางมีความรักเมื่อใด นางก็จะมิต้องคืนรูปเป็นกุหลาบอีก

แต่นางจะได้รับความทุกข์ทรมานเพราะความรักจนมิอาจทนอยู่ได้

และเมื่อนั้นถ้านางอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ

ตนจึงจะงดโทษทัณฑ์นี้ให้แก่นาง

นางมัทนาไปจุติเป็นกุหลาบงามอยู่ในป่าหิมะวัน

บรรดาศิษย์ของฤษีนามกาละทรรศินมาพบเข้า

จึงนำความไปบอกพระอาจารย์

กาละทรรศินจึงให้ขุดไปปลูกในบริเวณอาศรมของตน

ในขณะที่จะทำการขุดก็มีเสียงผู้หญิงร้อง

กาละทรรศินเล็งญาณดูก็รู้ว่าเป็นเทพธิดามาจุติ

จึงได้เอ่ยเชิญและสัญญาว่าจะคอยดูแลปกป้องสืบไป

เมื่อนั้นการจึงสำเร็จด้วยดี

วันเพ็ญในเดือนหนึ่งท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งหัสตินาปุระ

ได้เสด็จออกล่าสัตว์ในป่าหิมะวัน

และได้แวะมาพักที่อาศรมพระฤษี

ครั้นได้เห็นนางมัทนาในโฉมของนารีผู้งดงาม

ก็ถึงกับตะลึงและตกหลุมรัก

จนถึงกับรับสั่งให้มหาดเล็กปลูกพลับพลา

พักแรมไว้ใกล้อาศรมนั้นทันที

ท้าวชัยเสนรำพันถึงความรักลึกซึ้งที่มีต่อนางมัทนา

ครั้นเมื่อนางมัทนาออกมาที่ลานหน้าอาศรม

ก็มิเห็นผู้ใด ด้วยเพราะท้าวชัยเสนหลบไปแฝงอยู่หลังกอไม้


อิทิสังฉันท์ ๒๐

อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี                          ประดุจมโนภิรมย์รตี ณ แรกรัก
แสงอรุณวิโรจน์นภาประจักษ์                แฉล้มเฉลาและโสภินัก นะฉันใด
หญิงและชาย ณ ยามรตีอุทัย               สว่าง ณ กลางกมลละไม ก็ฉันนั้น

แสงอุษาสะกาวพะพราว สวรรค์             ก็เหมือนรตีวิสุทธิอัน สว่างจิต
อ้าอนงค(ะ) เชิญดำเนิร สนิธ                ณ ข้าดนูประดุจสุมิตร มโนมาน

ไปกระทั่ง ณ ฝั่งอุทก(ะ)จีรธาร             และเปล่งพจี ณ สัจจการ ประกาศหมั้น
ต่อพระพักตร์สุราภิรักษ(ะ) อัน-             เสด็จสถิต ณ เขตอรัณ - ยะนี่ไซร้
ว่าดนูและน้องจะเคียงคระไล                 และครองตลอด ณ อายุขัย บ่คลาดคลา  
 


นางมัทนาได้พรรณาถึงความรัก

ที่เกิดขึ้นในใจอย่างท่วมท้น

ท้าวชัยเสนได้สดับฟังทุกถ้อยความ

จึงเผยตัวออกมาทั้งสองจึงกล่าวถึง

ความรู้สึกอันล้ำลึกในใจที่ตรงกัน

จนเข้าใจในรักที่มีต่อกัน

จากค่ำคืนถึงยามรุ่งอรุณ

ท้าวชัยเสนจึงทรงประกาศหมั้น

และคำสัญญารัก

ณ ริมฝั่งลำธารใกล้อาศรมนั้น

เมื่อมีความรักแล้ว

นางมัทนาก็ยังคงรูปเป็นนารีผู้งดงาม

มิต้องกลายรูปเป็นกุหลาบอีก

ท้าวชัยเสนได้ทูลขอนางมัทนา

พระฤษีก็ยกให้

โดยให้จัดพิธีบูชาทวยเทพ

และพิธีวิวาหมงคลในป่านั้นเสียก่อน

ท้าวชัยเสนเสด็จกลับวังหลายเพลาแล้ว

แต่ก็มิได้เสด็จไปยังพระตำหนักข้างใน

ด้วยว่ายังทรงประทับอยู่แต่ในอุทยาน

พระนางจัณฑี มเหสีให้นางกำนัลมาสืบดู

จนรู้ว่าพระสวามีนำสาวชาวป่ามาด้วย

จึงตามมาพบท้าวชัยเสนกำลังอยู่กับนางมัทนาพอดี

เมื่อพระนางจัณฑีเจรจาค่อนขอดดูหมิ่นนางมัทนา

ท้าวชัยเสนก็กริ้วและทรงดุด่าว่าเป็นมเหสีผู้ริษยา

พระนางจัณฑีแค้นใจนัก

ให้คนไปทูลฟ้องพระบิดาผู้เป็นเจ้าแห่งมคธนคร

ให้ยกทัพมาทำศึกกับท้าวชัยเสน

จากนั้นก็คบคิดกับนางค่อมอราลีและวิทูรพราหมณ์หมอเสน่ห์

ทำอุบายกลั่นแกล้งนางมัทนา

โดยส่งหนังสือไปทูลท้าวชัยเสนว่านางมัทนาป่วย

ครั้นเมื่อท้าวชัยเสนรีบเสด็จกลับมาเยี่ยมนางมัทนา

ก็กลับพบหมอพราหมณ์กำลังทำพิธีอยู่ใกล้ๆต้นกุหลาบ

วิทูรกับนางเกศินีข้าหลวงของนางจัณฑี

จึงทูลใส่ความว่านางมัทนาให้ทำเสน่ห์

เพื่อให้ได้ร่วมชื่นชูสมสู่กับศุภางค์

ท้าวชัยเสนกริ้วนัก

รับสั่งให้ศุภางค์ประหารนางมัทนา

แต่ศุภางค์ไม่ยอม ท้าวชัยเสนจึงสั่งประหารทั้งคู่

พระนางจัณฑีได้ช่องรีบเข้ามาทูลว่าตนจะอาสา

ออกไปห้ามศึกพระบิดา

ซึ่งคงเข้าใจผิดว่านางกับท้าวชัยเสนนั้นบาดหมางกัน

แต่ท้าวชัยเสนตรัสว่าทรงรู้ทันอุบายของนาง

ที่คิดก่อศึกแล้วจะห้ามศึกเอง

พระองค์จะขอออกทำศึกอีกครา

แล้วตัดหัวกษัตริย์มคธพ่อตาเอามาให้นางผู้ขบถต่อสวามีตนเอง

ขณะตั้งค่ายรบอยู่ที่นอกเมือง

วิทูรพรหมณ์เฒ่าได้มาขอเข้าเฝ้าท้าวชัยเสน

เพื่อสารภาพความทั้งปวง

ว่าพระนางจัณฑีเป็นผู้วางแผนการร้าย

ซึ่งในที่สุดแล้วตนสำนึกผิดและละอายต่อบาป

ที่เป็นเหตุให้คนบริสุทธิ์ต้องได้รับโทษประหาร

ท้าวชัยเสนทราบความจริงแล้วคั่งแค้น

จนดำริจะแทงตนเองให้ตาย

แต่อำมาตย์นันทิวรรธนะเข้าห้ามไว้ทัน

และสารภาพว่าในคืนเกิดเหตุนั้น

ตนละเมิดคำสั่ง มิได้ประหารศุภางค์และนางมัทนา

หากแต่ได้ปล่อยเข้าป่าไป

ซึ่งนางมัทนานั้นได้โสมะทัตศิษญ์เอกของฤษีกาละทรรศิน

นำพากลับสู่อาศรมเดิม แต่ศุภางค์นั้นแฝงกลับ

เข้าไปร่วมกับกองทัพแล้วออกต่อสู้กับข้าสึกจนตัวตาย

ท้าวชัยเสนจึงรับสั่งให้ประหารท้าวมคธ

ที่ถูกจับมาเป็นเชลยไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

ส่วนพระนางจัณฑีมเหสีนั้น

ทรงให้เนรเทศออกนอกพระนคร

ด้วยทรงเห็นว่าอันนารีผู้มีใจมุ่งร้ายต่อผู้เป็นสามี

ก็คงต้องแพ้ภัยตนเอง มิอาจอยู่เป็นสุขได้นานแน่

ฝ่ายนางมัทนานั้นได้ทำพิธีบูชาเทพและวอนขอร้อง

ให้สุเทษณ์จอมเทพช่วยนางด้วย

สุเทษณ์นั้นก็ยินดีจะแก้คำสาปและรับนางเป็นมเหสี

แต่นางมัทนาก็ยังคงปฏิเสธ

และว่าอันนารีจะมีสองสามีได้อย่างไร


วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

สุเทษณ์ : รักจริงมิจริงฤก็ไฉน           อรไทบ่แจ้งการ
มัทนา : รักจริงมิจริงก็สุรชาญ          ชยะโปรดสถานใด
สุเทษณ์ : พี่รักและหวังวธุ จะรัก        และบ่ทอดบ่ทิ้งไป
มัทนา : พระรักสมัคร ณ พระหทัย     ฤจะทอดจะทิ้งเสีย?
สุเทษณ์ : ความรักละเหี่ยอุระระทด    เพราะมิอาจจะคลอเคลีย
มัทนา : ความรักระทดอุระละเหี่ย       ฤจะหายเพราะเคลียคลอ
สุเทษณ์ : โอ้  โอ๋กระไรนะ มทนา         บ่มิตอบ พจี พอ?
มัทนา : โอ้โอ๋กระไร อมระ ง้อ           มทนา มิพอดี


สุเทษณ์เห็นว่านางมัทนายังคงปฏิเสธความรักของตน

จึงกริ้วนักสาปส่งให้นางมัทนา

เป็นดอกกุหลาบไปตลอดกาล

มิอาจกลายร่างเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป



ยานี ๑๑

ความรักเหมือนโรคา                บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล                       อุปสรรคะใดใด
ความรักเหมือนโคถึก               กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดออกจากคอกไป              บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้                       ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                      บ หวนคิดถึงเจ็บกาย



เมื่อท้าวชัยเสนตามมาถึงในป่า

นางปริยัมวะทาที่ตามมาปรนนิบัติดูแลนางมัทนาด้วย

ก็ทูลเล่าความทั้งสิ้นให้ทรงทราบ

ท้าวชัยเสนจึงร้องร่ำให้ด้วยความอาลัยรัก

แล้วขอให้พระฤษีช่วยโดยใช้มนตรา

และกล่าวเชิญนางมัทนาให้ยินยอม

กลับเข้าไปยังเวียงวังกับตนอีกครา

เมื่อพระฤษีทำพิธีแล้ว

ท้าวชัยเสนก็รำพันถึงความหลงผิด

และความรักที่มีต่อนางมัทนาให้ต้นกุหลาบได้รับรู้

จากนั้นจึงสามารถขุดต้นกุหลาบได้สำเร็จ

ท้าวชัยเสนได้นำต้นกุหลาบขึ้นวอทอง

เพื่อนำกลับไปปลูกในอุทยาน

และขอให้ฤาษีกาละทรรศินให้พรวิเศษว่า

กุหลาบจะยังคงงดงามมิโรยรา

ตราบจนกว่าตัวพระองค์เองจะสิ้นอายุขัย

พระฤษีก็อวยพรให้ดังใจ

และประสิทธิประสาทพร

ให้กุหลาบนั้นดำรงอยู่คู่โลกนี้มิมีสูญพันธ์

อีกทั้งยังเป็นไม้ดอกที่กลิ่นอันหอมหวาน

สามารถช่วยดับทุกข์ในใจคน

และดลบันดาลให้จิตใจเบิกบานเป็นสุขได้

ชาย-หญิงเมื่อมีรักก็จักใช้ดอกกุหลาบ

เป็นสัญญลักษณ์แห่งความรักแท้สืบต่อไป

จบ.

Report Spam   Logged

Share on Facebook Share on Twitter

Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by EzPortal
Bookmark this site! | Upgrade This Forum
SMF For Free - Create your own Forum

Powered by SMF | SMF © 2016, Simple Machines
Privacy Policy